คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่?

โรคหลอดเลือดสมองมีหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ โรคหลอดเลือดสมองจากลิ่มเลือดอุดตัน (Embolic stroke) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดก่อตัวขึ้น อาจเกิดในหัวใจหรือบริเวณอื่นของร่างกาย แล้วเคลื่อนตัวไปตามกระแสเลือดและไปอุดตันเส้นเลือดขนาดเล็กในสมอง

คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โรคหลอดเลือดสมองมีแนวโน้มพบได้บ่อยขึ้นในกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 60 ปี โดยไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ใหญ่ในวัยทำงาน และแม้กระทั่งวัยรุ่น ซึ่งล้วนมีโอกาสเผชิญความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ

โรคหลอดเลือดสมองมีหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ โรคหลอดเลือดสมองจากลิ่มเลือดอุดตัน (Embolic stroke) ซึ่งเกิดจากการที่ลิ่มเลือดก่อตัวขึ้น อาจเกิดที่หัวใจหรือบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย แล้วไหลเวียนไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันหลอดเลือดขนาดเล็กในสมอง

  • ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในสมอง (Cerebral thrombosis) เกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดก่อตัวภายในหลอดเลือดสมองที่มีการตีบแคบจากการสะสมของไขมันตามผนังหลอดเลือด
  • โรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออก (Hemorrhagic stroke) เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดสมองที่อ่อนแอแตกและมีเลือดไหลออกในสมอง เลือดที่สะสมจะกดทับเนื้อสมองโดยรอบ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อสมอง

    แหล่งข้อมูลอ้างอิง : ศูนย์ประสาทวิทยากรุงเทพ (Bangkok Neuroscience Centre)

โรคหลอดเลือดสมองมีหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ โรคหลอดเลือดสมองจากลิ่มเลือดอุดตัน (Embolic stroke) ซึ่งเกิดจากการที่ลิ่มเลือดก่อตัวขึ้น อาจเกิดที่หัวใจหรือบริเวณอื่นของร่างกาย แล้วไหลเวียนไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันหลอดเลือดขนาดเล็กในสมอง

เวลาเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง หากมีอาการเกิดขึ้น ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด เพราะหากเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต และแม้กระทั่งการฟื้นตัวจนหายเป็นปกติได้

  • อาการของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ อาการอ่อนแรงของแขน แขนขาชา หรือการเดินไม่มั่นคง นอกจากนี้อาจมีความผิดปกติในการพูด เช่น พูดไม่ชัด ไม่สามารถพูดประโยคให้สมบูรณ์ได้ รวมทั้งมีการบิดเบี้ยวของใบหน้า โดยมักเกิดร่วมกับอาการปวดศีรษะรุนแรง
  • ปัจจัยเสี่ยงที่ทราบกันดีของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน การสูบบุหรี่ ภาวะหลอดเลือดแดงคาโรติดตีบ และภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว (Atrial fibrillation) หรือโรคหัวใจอื่น ๆ แนวทางในการลดความเสี่ยง ได้แก่ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ออกกำลังกายเป็นประจำ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม

การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง: หากตรวจพบว่ามีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ แพทย์จะฉีดสารทึบรังสีเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อระบุตำแหน่งของลิ่มเลือด หลังจากนั้นอาจใช้การรักษาด้วยการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (minimally invasive surgery) เพื่อนำลิ่มเลือดออก เนื่องจากหลอดเลือดสมองมีความเปราะบางและละเอียดอ่อน ขั้นตอนทั้งหมดจึงจำเป็นต้องดำเนินการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีร่วมรักษาและศัลยแพทย์ระบบประสาท

โรคหลอดเลือดสมองสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และอาจเกิดซ้ำได้อีก การดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพดี การศึกษาประวัติสุขภาพครอบครัว และการตรวจสุขภาพประจำปี ถือเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกัน สำหรับผู้ที่เคยประสบภาวะหลอดเลือดสมอง ควรตระหนักว่าการฟื้นฟูสมรรถภาพตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยให้การฟื้นตัวของสมองและกล้ามเนื้อเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง การติดเชื้อทางเดินหายใจ และภาวะลิ่มเลือดอุดตันได้