โดย PCHI Web Admin หมวดหมู่ สุขภาพ, สุขภาพ ความคิดเห็น (0)
อัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มสูงขึ้น
โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองของโลก แต่ในทางกลับกันกลับได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพน้อยกว่าโรคอื่น ๆ หลายชนิด เมื่อประชากรโลกมีอายุยืนยาวมากขึ้น ภาระจากโรคหลอดเลือดสมองย่อมเพิ่มขึ้นตาม โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียซึ่งกำลังเผชิญปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น เช่น การสูบบุหรี่ และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคตามแบบตะวันตก นอกจากนี้ กลุ่มประชากรบางกลุ่ม เช่น ผู้หญิง ก็อาจต้องได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีอายุขัยที่ยืนยาวกว่า และมีแนวโน้มการสูบบุหรี่เพิ่มสูงขึ้น
เพื่อควบคุมปัญหานี้ จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการจัดการโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อเป็นกรอบการทำงานที่รัฐบาลสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม
ในประเทศไทย มีการประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองปีละประมาณ 50,000 ราย ตามข้อมูลจากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งทำให้โรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตสำคัญของคนไทย แต่ละปีพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองรายใหม่ประมาณ 250,000 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตราว 50,000 ราย และประมาณ 30% ของผู้ป่วยมีภาวะอัมพาตตามมา
แม้โรคหลอดเลือดสมองอาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ แต่ในหลายกรณีสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ หากผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดตระหนักถึงอาการเตือนล่วงหน้าพร้อมทั้งวิธีการรับมือ ซึ่งสามารถสรุปได้ด้วยตัวย่อ "FAST"
มีหลักฐานพิสูจน์แล้วว่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ได้รับการรักษาภายใน 4.5 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการเรื้อรังหรือถาวรน้อยลง การตระหนักรู้ถึงอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถนำไปสู่การเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งอาจช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยไว้ได้
มีการสันนิษฐานว่า ผู้ที่สูบบุหรี่อย่างสม่ำเสมอ มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง และมีวิถีชีวิตที่ขาดการเคลื่อนไหว มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากโรคนี้ ขอแนะนำให้หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานผักและผลไม้ให้มาก หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์